1 ) ของเหลวในเครื่องยนต์
ของเหลวจำพวกน้ำต่างๆ เช่น น้ำในหม้อน้ำหล่อเย็นซึ่งมีผลต่ออุณหภูมิของเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงเป็นส่วนสำคัญที่ควรตรวจเช็กก่อนเดินทางไกล ซึ่งเปิดฝาหม้อน้ำเพื่อตรวจเช็คแต่ต้องย้ำว่าต้องทำหลังจากดับเครื่องไว้นานพอสมควร จนทำให้เครื่องยนต์เย็นลงก่อนจะเปิด ไม่เช่นนั้นจะเกิดอันตราย หรือ ลองดูที่ถังพักน้ำข้าง ๆ เพื่อดูระดับน้ำซึ่งไม่ควรเติมให้เกินขีด MA X
อีกส่วนหนึ่งคือน้ำสำหรับฉีดกระจกปัดน้ำฝน ด้วยสภาพอากาศแปรปรวนเช่นนี้ ในสภาพการใช้งานและการเดินทางจริงบนถนนอาจจะมี ฝนตก หรือ ฝุ่น หรือแมลง ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง การฉีดน้ำช่วยให้ทัศนวิสัยชัดเจนมากยิ่งขึ้นจึงถือเป็นสิ่งที่ ทำให้ลดความเครียดในการขับขี่จากการมองเห็นที่ชัดเจน ซึ่งน้ำสำหรับฉีดกระจกปัดน้ำฝนจึงต้องเตรียมไว้ให้พร้อมเสมอ
2 ) ริ้วรอยรอบตัวถัง
อาจใช้โอกาสล้างรถหลังจากกลับไปเลย เพราะขณะที่เราล้างรถนั้น ก็ถือเป็นการสังเกตแต่ละจุดของตัวรถไปด้วย หากพบริ้วรอยก็สามารถที่จะขจัดออกไปได้ ก่อนที่จะกลายเป็นคราบฝังแน่นได้นั้นเอง
3 ) ระบบเบรกในเครื่องยนต์
เช็คเสียงผิดปกติ อีกสิ่งสำคัญที่หากพบความผิดปกติควรรีบหาสาเหตุและแก้ไขทันที ไม่ว่าจะมีเสียงดังตอนเบรกเกิดขึ้น หรืออาการเบรกที่ผิดปกติไป ควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็คอย่างละเอียดและแก้ไข
4 ) เช็คระบบไฟส่องสว่าง
การเดินทางในช่วงเช้ามืดหรือเดินทางจนตะวันตกดินมีความเป็นไปได้สูง ระบบส่องสว่างจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก โดยสามารถตรวจสอบได้ด้วยการเช็คไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลังรวมถึงไฟฉุกเฉินว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ อาจจะลองเปิดไฟเลี้ยวไว้แล้วเดินลงมาดูด้วยตัวเองหรือให้คนในครอบครัวช่วยสังเกตดู
เช็ก ไฟเบรก-ไฟหน้า ต้องลองหาสิ่งที่ละท้อนได้อาจจะเป็นกำแพงหรือกระจก จากนั้นถอยรถชิดให้เพียงพอที่จะละท้อนได้แล้วลองเหยียบเบรกค้างไว้เพื่อดูการสะท้อนของไฟเบรกที่สว่างขึ้นเท่ากันหรือไม่ ซึ่งถ้าแสงสะท้อนไม่เท่ากัน หมายความว่ามีข้างใดข้างหนึ่งขาดหรือเกิดความผิดปกติ
5 ) ตรวจเช็คยางรถยนต์
ตรวจเช็คง่ายๆด้วยสายตา ความดันลมยางที่เหมาะสมนอกจากจะในช่วยเรื่องของการประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย สังเกตได้ที่ด้านข้างของประตูรถที่ติดกับตัวถัง จะมีการระบุไว้เลยว่า ลมยางเท่าไรสำหรับใช้งานอย่างไร ซึ่ง “ความดันลมยางที่เหมาะสม” คือการคำนวณการเดินทางของตัวเราเองว่าเป็นอย่างไร ซึ่งปัจจุบันนี้ทางเลือกของการเติมลมยางด้วยในโตรเจน ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากจะช่วยลดความถี่ในการตรวจสอบลมยางให้น้อยลง
6 ) เช็คระบบช่วงล่าง
สามารถดูได้จากสภาพของตัวโช้ค ว่ามีน้ำมันชึมหรือรั่วหรือไม่ รวมไปถึงการสังเกตเวลาที่ขับรถผ่านลูกระนาดต่างๆ สามารถชับแรงและยึดหยุ่นปกติหรือไม่